นางฐปนีย์ ฟูมูลเจริญ นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษ

นางฐปนีย์ ฟูมูลเจริญ นักจิตวิทยา

นางฐปนีย์ ฟูมูลเจริญ เป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่ทำงานกับผู้คนในวัยและบริบทที่หลากหลาย โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางอารมณ์ การรับฟังอย่างลึกซึ้ง และการออกแบบแผนบำบัดที่เหมาะกับตัวบุคคล บทบาทหลักของเธอคือการประเมินทางจิตวิทยาอย่างเป็นระบบ ควบคู่กับการทำจิตบำบัดหลายแนวทางเพื่อช่วยให้ผู้รับบริการเข้าใจตนเองและจัดการความยากของชีวิตได้ดีขึ้น แนวทางการทำงานเน้นหลักฐานเชิงประจักษ์ ประสบการณ์ภาคสนาม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เข้มแข็ง

ประวัติการศึกษา

เส้นทางวิชาการของนางฐปนีย์เริ่มจากรากฐานที่มั่นคงด้านจิตวิทยา ก่อนต่อยอดสู่ความเชี่ยวชาญทางคลินิกในระดับมหาบัณฑิต ช่วงเวลาของการเรียนรู้ทำให้เธอได้รับทั้งองค์ความรู้เชิงทฤษฎี เครื่องมือประเมิน และทักษะการสื่อสารเพื่อดูแลผู้รับบริการอย่างรอบด้าน

การศึกษาที่มีทั้งมุมมองเชิงวิชาการและงานวิจัยช่วยให้เธอเข้าใจความซับซ้อนของพฤติกรรมมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ตลอดจนสามารถแปลผลการประเมินเพื่อวางแผนการบำบัดที่แม่นยำและเป็นรูปธรรม

นางฐปนีย์ ฟูมูลเจริญ

ประสบการณ์ทำงาน

เส้นทางอาชีพของนางฐปนีย์เติบโตจากงานภาครัฐและหน่วยงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ทักษะหลากหลาย การทำงานกับกลุ่มวัยเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ทำให้เธอเห็นมิติปัญหาที่แตกต่างกันและรู้วิธีปรับใช้เทคนิคให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

  • 1999–2002 สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดอุดรธานี ทำงานกับทีมสหวิชาชีพเพื่อประเมิน พัฒนาแผนช่วยเหลือ และฟื้นฟูศักยภาพของเด็กและเยาวชน
  • 2002–ปัจจุบัน สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต รับผิดชอบงานประเมินทางจิตวิทยา จิตบำบัดรายบุคคล กลุ่มบำบัด และพัฒนาระบบบริการร่วมกับทีมสาธารณสุข

ประสบการณ์ในระบบสุขภาพจิตของรัฐทำให้เธอคุ้นเคยกับปัญหาที่หลากหลาย ตั้งแต่ความเครียดในที่ทำงาน ความสัมพันธ์ในครอบครัว ไปจนถึงอาการวิตกกังวลและอารมณ์ซึมเศร้า ความยืดหยุ่นในการปรับเทคนิคให้สอดคล้องกับบริบทจริงคือจุดแข็งสำคัญของเธอ

ความเชี่ยวชาญและแนวทางการบำบัด

นางฐปนีย์เลือกใช้แนวทางบำบัดที่เหมาะสมกับลักษณะปัญหา เป้าหมาย และพลังทรัพยากรของผู้รับบริการ โดยสามารถผสานหลายเทคนิคอย่างยืดหยุ่นในกระบวนการดูแล

  • การทดสอบทางจิตวิทยาคลินิก ใช้แบบทดสอบมาตรฐานเพื่อทำความเข้าใจบุคลิกภาพ ความคิด อารมณ์ และการทำงานของสติปัญญา ช่วยยืนยันสมมติฐานและวางแผนบำบัดได้ตรงจุด
  • จิตบำบัดแบบประคับประคอง มุ่งเสริมพลังและความสามารถในการเผชิญปัญหา ลดทุกข์เฉียบพลัน และเพิ่มทักษะการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน
  • แนวคิดแห่งซาเทียร์เพื่อการแปรเปลี่ยนระบบ ครอบครัวและความสัมพันธ์เป็นหัวใจของแนวทางนี้ ใช้การสื่อสารที่เปิดเผยและเคารพกันเพื่อลดความตึงเครียดและสร้างรูปแบบปฏิสัมพันธ์ใหม่
  • การบำบัดความคิดและพฤติกรรม เน้นระบุรูปแบบความคิดอัตโนมัติที่ทำให้ทุกข์ ฝึกทักษะปรับความคิดและทดลองพฤติกรรมใหม่ที่สร้างผลเชิงบวก
  • การบำบัดโดยใช้การแสดงออก ใช้ศิลปะ การเคลื่อนไหว หรือบทบาทสมมุติเป็นสื่อ เพื่อเชื่อมต่ออารมณ์และประสบการณ์ภายในอย่างปลอดภัย
  • กลุ่มบำบัด เรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นที่มีประเด็นใกล้เคียงกัน เกิดพลังการสนับสนุนและข้อสะท้อนที่ช่วยเห็นมุมมองใหม่
  • กิจกรรมฝึกพุ่งสมอง หรือโปรแกรมฝึกการทำงานเชิงความคิด มุ่งพัฒนาความจำ สมาธิ การวางแผน และการยืดหยุ่นทางความคิดให้ดีขึ้น

เมื่อเริ่มต้นการดูแล เธอจะช่วยกำหนดเป้าหมายร่วมกัน วัดผลระหว่างทาง และปรับแผนอย่างต่อเนื่อง วิธีทำงานแบบร่วมมือทำให้ผู้รับบริการรู้สึกเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลง และเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนตามเวลาที่เหมาะสม

ปรัชญาการทำงานและคุณค่าที่มุ่งยึดถือ

หัวใจของการทำงานของนางฐปนีย์คือการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความแตกต่างเฉพาะบุคคล เธอเชื่อว่าทุกคนมีพลังในการฟื้นตัว หากได้รับพื้นที่ปลอดภัยและแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสม การให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสและการตัดสินใจร่วมกันเป็นหลักการสำคัญ เพื่อให้ผู้รับบริการเข้าใจทางเลือกของตนเองและเลือกก้าวที่เหมาะกับชีวิตจริง

อีกมุมหนึ่งที่เธอให้ความสำคัญคือการสร้างทักษะที่นำไปใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความคิด การดูแลอารมณ์ การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ หรือการจัดการความเครียดในที่ทำงาน ทักษะเหล่านี้ช่วยให้ผู้รับบริการกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

ประเด็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการดูแล

ผู้มาขอรับบริการมักมีเป้าหมายแตกต่างกัน ตั้งแต่การคลายทุกข์เฉียบพลันไปจนถึงการพัฒนาตนเองระยะยาว นางฐปนีย์มีประสบการณ์กับปัญหาหลากหลาย ดังนี้

  • ความวิตกกังวล อาการตื่นตระหนก หรือความกังวลเรื้อรังที่กระทบการทำงานและความสัมพันธ์
  • ภาวะอารมณ์ซึมเศร้า ความรู้สึกหมดพลัง และการจัดการความคิดเชิงลบ
  • ความเครียดจากงาน การปรับตัวกับบทบาทใหม่ และภาวะหมดไฟ
  • ความยากลำบากในความสัมพันธ์ภายในครอบครัว คู่สัมพันธ์ หรือทีมงาน
  • ประเด็นพฤติกรรมและอารมณ์ในวัยรุ่น รวมถึงทักษะผู้ปกครองที่ช่วยสนับสนุนลูก
  • ปัญหาการนอน การควบคุมสมาธิ และการบริหารเวลาในชีวิตประจำวัน

รายการข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่าง ผู้รับบริการสามารถปรึกษาเพื่อประเมินเบื้องต้นและเลือกแนวทางที่เหมาะกับตนเองได้

กระบวนการรับบริการตั้งแต่เริ่มจนจบ

การเริ่มต้นอย่างเป็นระบบช่วยให้การดูแลเป็นไปอย่างราบรื่น โปร่งใส และตรวจสอบความคืบหน้าได้

  1. นัดหมายและคัดกรองเบื้องต้น
    ทีมงานจะสอบถามข้อมูลพื้นฐานและเป้าหมายเบื้องต้น เพื่อวางแผนเวลาที่เหมาะสมและเตรียมเอกสารที่จำเป็น
  2. สัมภาษณ์และประเมินทางจิตวิทยา
    นางฐปนีย์จะรับฟังประวัติอย่างเป็นระบบ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยด้านความคิด อารมณ์ และสิ่งแวดล้อม อาจใช้แบบทดสอบมาตรฐานเพื่อประกอบข้อค้นพบ
  3. สรุปผลและวางแผนการบำบัด
    ร่วมกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วิธีการบำบัดที่เหมาะสม ความถี่ของการพบ และตัวชี้วัดความก้าวหน้า เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเดินไปในทิศทางเดียวกัน
  4. ดำเนินการบำบัดและติดตามผล
    มีการทบทวนผลทุกระยะ ปรับเทคนิคตามความจำเป็น และส่งต่อหรือผสานงานกับสหวิชาชีพเมื่อจำเป็น เพื่อให้การดูแลครอบคลุม

บทบาทในหน่วยงานและการทำงานแบบทีม

ในสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา นางฐปนีย์ทำงานร่วมกับจิตแพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และนักกิจกรรมบำบัด การประเมินและแผนการดูแลจึงสอดคล้องกันทั้งทีม ช่วยให้ผู้รับบริการได้รับการดูแลครบวงจร ตั้งแต่การประเมิน วางแผนบำบัด ไปจนถึงการติดตามผลและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จรรยาบรรณและความเป็นส่วนตัว

ความลับของผู้รับบริการคือหลักการที่ยึดถืออย่างเคร่งครัด เอกสารและข้อมูลทุกอย่างถูกจัดการตามมาตรฐานวิชาชีพ การเก็บรักษาข้อมูลอย่างปลอดภัยและการขอความยินยอมก่อนดำเนินการใดๆ ทำให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่าตนเองได้รับการดูแลด้วยความเคารพและความเป็นมืออาชีพ

คำถามที่พบบ่อย

ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนมาพบ?

แนะนำให้จดบันทึกเหตุการณ์หรืออาการที่อยากปรึกษา รวมถึงสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้ามีประวัติการรักษาหรือผลประเมินเดิมให้นำมาด้วย การเตรียมเป้าหมายคร่าวๆ จะช่วยให้การพูดคุยมีทิศทางและใช้เวลาได้คุ้มค่า

ต้องพบกี่ครั้งจึงเห็นผล?

จำนวนครั้งแตกต่างกันตามความยากของประเด็นและเป้าหมายของแต่ละคน ประเด็นเฉียบพลันอาจต้องการเพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนเป้าหมายเชิงลึกด้านความสัมพันธ์หรือรูปแบบความคิดเรื้อรังอาจใช้เวลานานขึ้น การประเมินเป็นระยะช่วยให้เห็นความก้าวหน้าและปรับแผนได้เหมาะสม

แบบทดสอบทางจิตวิทยาจำเป็นเสมอหรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอ การสัมภาษณ์เชิงคลินิกอาจเพียงพอในหลายกรณี อย่างไรก็ตาม แบบทดสอบมาตรฐานจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำความเข้าใจ และเป็นประโยชน์มากในกรณีที่ข้อมูลซับซ้อนหรือจำเป็นต้องใช้ผลอ้างอิงประกอบแผนการดูแล

ความแตกต่างระหว่างการบำบัดรายบุคคลและกลุ่มบำบัด?

รายบุคคลช่วยเจาะลึกปัจจัยเฉพาะตัวและสามารถปรับเทคนิคได้ละเอียด ส่วนกลุ่มบำบัดให้โอกาสได้รับข้อสะท้อนจากผู้อื่น ฝึกการสื่อสาร และได้พลังการสนับสนุนจากประสบการณ์ร่วมกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของผู้รับบริการ

หากรู้สึกไม่พร้อมพูดเรื่องยาก ควรทำอย่างไร?

สามารถบอกความกังวลและขอบเขตที่ต้องการได้เสมอ นางฐปนีย์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางอารมณ์ จึงจะค่อยๆ วางโครงสร้างการสนทนาและใช้เทคนิคที่ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกคุมจังหวะของกระบวนการได้

วิธีนัดหมายและการติดต่อ

หากต้องการปรึกษาหรือรับบริการกับนางฐปนีย์ สามารถติดต่อผ่านช่องทางของคลินิกที่ท่านสะดวก ทีมงานจะช่วยแนะนำขั้นตอนการนัดหมาย เอกสารที่ต้องเตรียม และช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การเริ่มต้นเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงตามความต้องการ

สรุป

นางฐปนีย์ ฟูมูลเจริญ เป็นนักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษที่ผสานองค์ความรู้ทางวิชาการ ประสบการณ์ภาคสนาม และความเข้าใจมนุษย์เข้าด้วยกัน เธอมีทักษะในการประเมินทางจิตวิทยาที่แม่นยำ และใช้แนวทางบำบัดหลากหลาย เช่น การบำบัดความคิดและพฤติกรรม แนวทางซาเทียร์ การบำบัดโดยใช้การแสดงออก กลุ่มบำบัด และโปรแกรมฝึกการทำงานเชิงความคิด จุดมุ่งหมายคือช่วยให้ผู้รับบริการเข้าใจตนเอง เห็นทางเลือกใหม่ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานอย่างเป็นระบบ มีจรรยาบรรณ และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว นางฐปนีย์คือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมเดินไปกับคุณบนเส้นทางการดูแลใจอย่างมืออาชีพ

Related articles