โรคจิต (Psychosis) อาการเป็นแบบไหน สาเหตุจากอะไร และรักษาได้อย่างไร

โรคจิต (Psychosis)

โรคจิตคืออะไร เข้าใจความหมายที่ถูกต้อง

โรคจิตคือภาวะที่การรับรู้ความจริงของคนคนหนึ่งเปลี่ยนไปจนกระทบการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ ผู้ป่วยอาจเห็นภาพหรือได้ยินเสียงทั้งที่ไม่มีอยู่จริง เข้าใจเหตุการณ์ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือเชื่อสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่แม้มีหลักฐานตรงข้าม ภาวะนี้ต่างจากความเครียดหรือความกังวลทั่วไป เพราะแกนหลักคือความผิดปกติของการรับรู้และความคิดเมื่อเทียบกับความเป็นจริง การวินิจฉัยต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตประเมินอย่างเป็นระบบเพื่อแยกจากภาวะอื่นที่คล้ายกัน

ความแตกต่างระหว่างโรคจิตกับความผิดปกติทางอารมณ์ทั่วไป

ความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้าทำให้อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยน แต่โดยมากยังรับรู้ความจริงได้ โรคจิตต่างออกไปเพราะแกนปัญหาอยู่ที่การรับรู้และความคิด เช่น ประสบการณ์ประสาทหลอนหรือหลงเชื่อผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ภาวะอารมณ์บางแบบอาจพัฒนาไปสู่โรคจิตได้ และบางรายมีทั้งอาการทางอารมณ์และอาการจิตควบคู่กัน จึงต้องประเมินอย่างละเอียดก่อนวางแผนช่วยเหลือ

โรคจิตมีอะไรบ้างที่ควรรู้

ภาพรวมของโรคจิตพบได้ในหลายโรคและหลายช่วงวัย ปัจจัยชีวภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อมมีส่วนร่วมกัน การมาพบแพทย์ตั้งแต่แรกเริ่มช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาดีขึ้น ลดโอกาสกลับเป็นซ้ำ และทำให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้ใกล้ปกติ

อาการหลักที่มักพบ

  • ประสาทหลอน เช่น ได้ยินเสียง เห็นภาพ หรือรู้สึกถูกสัมผัสโดยไม่มีสิ่งกระตุ้นจริง
  • หลงเชื่อผิดปกติ เช่น เชื่อว่ามีคนติดตาม แอบดู หรือมีพลังพิเศษโดยไม่มีหลักฐานรองรับ
  • ความคิดและการสื่อสารสับสน พูดหลุดประเด็น คิดเชื่อมโยงเรื่องได้ยาก
  • พฤติกรรมเปลี่ยนไปชัดเจน เช่น เก็บตัวมากผิดปกติ ไม่ดูแลตัวเอง
  • อารมณ์แบนราบหรือแปรปรวนง่าย ทำงานหรือเรียนตกลงอย่างเห็นได้ชัด

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

  • นอนผิดเวลาและน้อยลงต่อเนื่อง สมาธิลดลงอย่างรวดเร็ว
  • เริ่มตีความเหตุการณ์ธรรมดาว่าเป็นสัญญาณพิเศษที่ส่งถึงตน
  • สื่อสารกับครอบครัวหรือเพื่อนน้อยลง หลบเลี่ยงสังคม
  • ใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้นหรือดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเพื่อกดอาการ
  • น้ำหนักลด การดูแลตัวเองถดถอย หยุดกิจกรรมที่เคยชอบ
โรคจิตมีกี่ประเภท
โรคจิตมีกี่ประเภท

โรคจิตมีกี่ประเภท แบ่งตามลักษณะอาการ

การจำแนกช่วยวางแผนรักษาและติดตามอาการได้เหมาะสม แม้รายละเอียดขึ้นอยู่กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ แต่เข้าใจโครงสร้างกว้างๆ จะช่วยสื่อสารกับทีมรักษาได้ง่ายขึ้น

ประเภทที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง

ได้แก่กลุ่มที่มีความผิดปกติของสารสื่อประสาทหรือวงจรสมอง เช่น โรคจิตเภท กลุ่มอาการจิตกำเริบตอนแรก และโรคจิตที่สัมพันธ์กับภาวะทางระบบประสาทอื่น ผู้ป่วยมักมีอาการประสาทหลอน หลงเชื่อผิดปกติ และการคิดสับสนเด่นชัด การรักษาหลักคือยาและการฟื้นฟูการใช้ชีวิตร่วมกัน

ประเภทที่สัมพันธ์กับความผิดปกติทางอารมณ์

บางรายมีอาการจิตร่วมกับอารมณ์ซึมเศร้าหรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงเป็นช่วงชัดเจน การจัดกลุ่มนี้มักพิจารณาทั้งแกนอารมณ์และอาการจิตควบคู่กัน แผนรักษาจะรวมการดูแลอารมณ์และการรับรู้ในเวลาเดียวกัน

โรคจิตอารมณ์คืออะไร และแตกต่างจากโรคจิตทั่วไปอย่างไร

โรคจิตอารมณ์คือภาวะที่อาการจิตเกิดร่วมกับช่วงอารมณ์ผิดปกติชัดเจน เช่น เศร้ามากผิดปกติหรือคึกคักมากผิดปกติ ความต่างสำคัญคือจังหวะเวลา เมื่อจัดการแกนอารมณ์ได้ดี อาการจิตก็มักลดลงเร็วกว่า ในทางปฏิบัติ ผู้เชี่ยวชาญจะซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อแยกว่าช่วงอารมณ์สัมพันธ์กับอาการจิตหรือไม่ แล้วจึงเลือกแนวทางยาและการบำบัดที่เหมาะกับรูปแบบของแต่ละคน

ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคจิต

โรคจิตไม่ได้มีสาเหตุเดียว แต่เกิดจากการผสมของหลายปัจจัย

  • พันธุกรรมและชีวภาพ ความไวของระบบสื่อประสาทหรือประวัติครอบครัวเพิ่มโอกาสเกิด
  • สิ่งแวดล้อม ความเครียดยาวนาน การถูกรังแก การสูญเสียครั้งใหญ่ หรือประสบการณ์กระทบใจรุนแรง
  • การใช้สารกระตุ้น เช่น กัญชาที่มีความแรงสูง สารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • การนอนและการดูแลตัวเอง การอดนอนยาวนานและโภชนาการที่ไม่สมดุลทำให้สมองเปราะบางขึ้น
  • ภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น การติดเชื้อรุนแรง การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหลังคลอด หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด

การรู้ปัจจัยเสี่ยงช่วยวางแผนป้องกันและเฝ้าระวังตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในคนที่มีประวัติครอบครัวหรือเคยมีอาการมาก่อน

ผู้ป่วยโรคจิต
ผู้ป่วยโรคจิต

ผลกระทบของโรคจิตต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

โรคจิตส่งผลต่อหลายมิติ ทั้งการทำงาน การเรียน การดูแลตนเอง และความสัมพันธ์ ผู้ป่วยอาจยากต่อการตั้งสมาธิ จัดการเวลา หรือสื่อสารได้ราบรื่น ความกลัวและความสับสนทำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมสังคม นำไปสู่ความโดดเดี่ยว โดยรวมแล้วคุณภาพชีวิตลดลงหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ข่าวดีคือการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นช่วยฟื้นการทำงานและลดโอกาสกลับเป็นซ้ำได้มาก

วิธีการรักษาและแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคจิต

แนวทางที่ได้ผลมักผสมผสานหลายวิธีเพื่อครอบคลุมทั้งอาการ การใช้ชีวิต และเครือข่ายสนับสนุน

การรักษาด้วยยา

ยาต้านอาการจิตเป็นแกนหลักในช่วงอาการกำเริบและช่วงคงสภาพ เป้าหมายคือกดอาการประสาทหลอน ลดความคิดหลงเชื่อ และทำให้การนอน การกิน และพฤติกรรมกลับมาใกล้ปกติ แพทย์จะเลือกชนิดและขนาดยาตามอาการและภาวะร่วม พร้อมติดตามผลข้างเคียง เช่น ง่วง ซึม น้ำหนักขึ้น หรืออาการกล้ามเนื้อกระตุก การสื่อสารกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอช่วยปรับแผนยาให้เหมาะสมและปลอดภัย

การบำบัดและการดูแลด้านจิตใจ

การบำบัดความคิดและพฤติกรรมช่วยให้ผู้ป่วยสังเกตสัญญาณเตือน จัดการความเครียด และท้าทายความคิดที่บิดเบือน โปรแกรมฟื้นฟูทักษะสังคม การฟื้นฟูอาชีพ และการฝึกบริหารเวลา ช่วยให้กลับไปเรียนหรือทำงานได้อย่างมั่นใจ การทำงานร่วมกับครอบครัวผ่านการให้ความรู้เรื่องโรคและวิธีสื่อสารก็สำคัญ เพราะลดความขัดแย้งและเพิ่มพลังสนับสนุนในชีวิตประจำวัน

แนวทางสนับสนุนในชีวิตจริงที่ทำได้ทันที

  • จัดตารางนอนและตื่นให้สม่ำเสมอ เน้นแสงแดดยามเช้า
  • ลดสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงสารเสพติด
  • กินอาหารครบมื้อ เน้นโปรตีนและผักผลไม้ รับน้ำให้พอ
  • บันทึกอาการ สถานการณ์กระตุ้น และปัจจัยที่ช่วยให้อาการดีขึ้น
  • นัดติดตามสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หากมีผลข้างเคียงให้ปรึกษาแพทย์

การป้องกันและการช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะโรคจิต

การป้องกันเน้นลดปัจจัยเสี่ยงและเสริมทักษะการจัดการความเครียด โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือเคยมีอาการ

  • ส่งเสริมการนอนที่มีคุณภาพและกิจวัตรที่คาดเดาได้
  • ฝึกทักษะรับมือความเครียด เช่น หายใจยาว การยืดเหยียด และการมีสมาธิสั้นๆ
  • สร้างวงสนับสนุนที่ไว้ใจได้ในครอบครัว เพื่อน และที่ทำงาน
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารกระตุ้นและตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
  • หากเริ่มมีสัญญาณเตือน รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดโอกาสกำเริบรุนแรง

สรุปและมุมมองต่อการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ

โรคจิตไม่ใช่ความผิดของใคร และไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลว การเข้าถึงการรักษาเร็ว การดูแลต่อเนื่อง และการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมสามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเราเข้าใจกลไกโรค เห็นคุณค่าของคนคนหนึ่งมากกว่าอาการ และร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ผู้ป่วยสามารถกลับมาเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายได้

คำถามที่พบบ่อย

โรคจิต คืออะไร?
คือภาวะที่การรับรู้ความจริงเปลี่ยนไปจนกระทบชีวิต ผู้ป่วยอาจมีประสาทหลอน หลงเชื่อผิดปกติ และความคิดสับสน การวินิจฉัยและรักษาควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อแยกจากภาวะอื่นที่คล้ายกัน

โรคจิต มีอะไรบ้าง?
พบได้หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของวงจรสมอง กลุ่มที่สัมพันธ์กับอารมณ์ผิดปกติ และภาวะจิตจากสารหรือโรคทางกาย แผนรักษาจะต่างกันตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ

โรคจิต มีกี่ประเภท?
โดยแนวคิดกว้างๆ แบ่งตามแกนอาการและสาเหตุ เช่น ประเภทที่เด่นด้านการรับรู้บิดเบือน ประเภทที่พ่วงอารมณ์ชัดเจน และประเภทที่เกิดจากสารหรือภาวะแพทย์อื่น การแบ่งนี้ช่วยเลือกวิธีรักษาและการติดตามที่เหมาะกับแต่ละคน

โรคจิตอารมณ์ต่างจากโรคจิตทั่วไปอย่างไร?
โรคจิตอารมณ์มีอาการจิตเกิดขึ้นพร้อมช่วงอารมณ์ผิดปกติชัดเจน เมื่อควบคุมอารมณ์ได้ อาการจิตก็มักดีขึ้นเร็วกว่า ส่วนโรคจิตทั่วไปอาจมีอาการจิตเด่นโดยไม่สัมพันธ์กับช่วงอารมณ์

รักษาโรคจิตใช้เวลานานไหม?
ช่วงอาการกำเริบมักตอบสนองต่อยาภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่การคงสภาพและป้องกันกำเริบต้องดูแลต่อเนื่องหลายเดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับรูปแบบโรคและการตอบสนองของแต่ละคน

ยาต้านอาการจิตจำเป็นแค่ไหนและมีผลข้างเคียงหรือไม่?
ยามีบทบาทสำคัญในการลดประสาทหลอนและความคิดผิดปกติ ผลข้างเคียงมีได้ เช่น ง่วง น้ำหนักเพิ่ม หรือกล้ามเนื้อเกร็ง แพทย์จะติดตามและปรับยาเพื่อลดผลข้างเคียงและคงประสิทธิผล

ครอบครัวช่วยอย่างไรได้บ้าง?
เริ่มจากการเรียนรู้เกี่ยวกับโรค รับฟังอย่างไม่ตัดสิน ช่วยจัดกิจวัตรและติดตามการพบแพทย์ สนับสนุนให้ใช้ทักษะผ่อนคลายความเครียด และร่วมสังเกตสัญญาณเตือนเพื่อเข้ารับการช่วยเหลือเร็ว

โรคจิตป้องกันได้หรือไม่?
ป้องกันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อาจทำไม่ได้ แต่ลดความเสี่ยงได้ด้วยการนอนให้พอ ลดสารกระตุ้น จัดการความเครียด สร้างเครือข่ายสนับสนุน และพบแพทย์ทันทีเมื่อเริ่มมีสัญญาณเตือน

อ่านเพิ่มเติม:

Related articles