นางสาววิมลวรรณ ปัญญาว่อง นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษ

นางสาววิมลวรรณ ปัญญาว่อง นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษ

นางสาววิมลวรรณ ปัญญาว่อง เป็นนักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษที่ทำงานกับผู้ป่วยหลากหลายช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นที่ต้องการการดูแลแบบเข้าใจความสัมพันธ์รอบตัว เธอให้ความสำคัญกับการประเมินปัญหาอย่างรอบด้าน การสื่อสารที่ชัดเจน และการทำงานร่วมกับครอบครัว โรงเรียน และทีมสหวิชาชีพ เพื่อช่วยให้ผู้มารับบริการมองเห็นทางเลือกใหม่และฟื้นคืนความมั่นคงทางอารมณ์ในชีวิตประจำวัน

ประวัติการศึกษา

เส้นทางวิชาการของคุณวิมลวรรณเริ่มจากพื้นฐานด้านจิตวิทยาที่แข็งแรง ก่อนต่อยอดสู่ความเชี่ยวชาญทางคลินิกและการประยุกต์แนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกอย่างเป็นระบบ เธอผสานองค์ความรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติจริง เพื่อนำไปใช้กับผู้รับบริการในบริบทไทยและสากล

ประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำให้เธอคุ้นเคยกับมาตรฐานสากลด้านการประเมินและการบำบัด ตลอดจนเทคนิคการเสริมพลังจุดแข็งของบุคคล ซึ่งเป็นฐานสำคัญของการทำงานเชิงป้องกันและฟื้นฟูที่ยั่งยืน

นางสาววิมลวรรณ ปัญญาว่อง

ประสบการณ์ทำงาน

คุณวิมลวรรณเติบโตในสายงานสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ก่อนขยายบทบาทสู่การดูแลผู้ใหญ่และการพัฒนาระบบงานในโรงพยาบาลเฉพาะทาง การทำงานยาวนานในหน่วยงานภาครัฐทำให้เธอเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง สภาพแวดล้อมในครอบครัว และบริบทโรงเรียนที่ทับซ้อนกับอาการทางอารมณ์และพฤติกรรม

  • 2008–2020 สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต รับผิดชอบการประเมินทางจิตวิทยา จิตบำบัดรายบุคคลและรายครอบครัว รวมถึงทำงานเชื่อมโยงกับครูและผู้ปกครอง
  • 2020–ปัจจุบัน สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ทำงานในบทบาทคลินิกชำนาญการพิเศษ พัฒนารูปแบบบริการ และสนับสนุนการอบรมบุคลากรสหสาขา

การคลุกคลีกับเคสที่หลากหลาย เช่น ความวิตกกังวล วิกฤตวัยรุ่น ภาวะซึมเศร้า ปัญหาความสัมพันธ์ในโรงเรียน และการเปลี่ยนผ่านบทบาท ทำให้เธอมีทักษะในการออกแบบแผนบำบัดที่ยืดหยุ่นและวัดผลได้จริง

ความสนใจทางคลินิกและแนวทางเด่น

ความเชี่ยวชาญของคุณวิมลวรรณครอบคลุมจิตบำบัดที่ยึดหลักฐานเชิงประจักษ์และแนวทางเสริมพลังจุดแข็ง เธอมุ่งสร้างความเข้าใจเชิงความสัมพันธ์ สนับสนุนทักษะสื่อสาร และปลูกฝังความหวังในการเปลี่ยนแปลง

Interpersonal Psychotherapy for Adolescents (IPT-A)

IPT-A เป็นจิตบำบัดที่เน้นความเชื่อมโยงระหว่างอารมณ์กับความสัมพันธ์ที่สำคัญของวัยรุ่น เช่น ครอบครัว เพื่อน และโรงเรียน กระบวนการจะช่วยสำรวจบทบาทในความสัมพันธ์ เหตุการณ์สูญเสีย ความขัดแย้ง และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่าน ช่วยให้วัยรุ่นสื่อสารความต้องการได้ตรงขึ้น ลดความตึงเครียด และฟื้นคุณค่าในตนเอง หลักสูตรที่เธอผ่านการอบรมจาก Anna Freud Centre ประเทศอังกฤษ ทำให้รูปแบบการทำงานมีโครงสร้างชัดเจนและเหมาะกับบริบทเยาวชนไทย

จิตวิทยาเชิงบวกและการเสริมพลัง

ด้วยพื้นฐาน M.Sc. Applied Positive Psychology เธอผสมผสานเครื่องมือเสริมพลัง เช่น การระบุจุดแข็งส่วนบุคคล การตั้งเป้าหมายที่มีความหมาย การฝึกขอบคุณ และการออกแบบกิจวัตรที่เติมพลัง เพื่อเสริมความยืดหยุ่นทางใจและทักษะเผชิญปัญหา ช่วยให้ผู้รับบริการไม่เพียงลดอาการ แต่ยังเติบโตในมิติความสุขและความหมาย

การอบรมและพัฒนาบุคลากร

คุณวิมลวรรณผ่านการอบรม Training for the Trainer โดยภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงมีบทบาทถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรด่านหน้า ครู โรงเรียน และทีมสุขภาพจิตในชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลแบบองค์รวม

กลุ่มปัญหาและประชากรที่ดูแล

ประเด็นที่คุณวิมลวรรณพบเป็นประจำครอบคลุมทั้งอารมณ์ พฤติกรรม และความสัมพันธ์ เธอออกแบบการช่วยเหลือให้เหมาะกับวัยและบทบาทของแต่ละคน โดยคำนึงถึงบริบทวัฒนธรรมไทยและความเชื่อของครอบครัว

  • ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลในวัยเรียน ส่งผลต่อสมาธิ การเข้าสังคม และความมั่นใจ
  • ความขัดแย้งกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว การกลั่นแกล้งทางออนไลน์ และแรงกดดันจากการเรียน
  • การเปลี่ยนผ่านบทบาท เช่น ย้ายโรงเรียน เตรียมสอบ เข้าสู่มหาวิทยาลัย หรือเริ่มงานแรก
  • ปัญหาการนอน การจัดการเวลา และพฤติกรรมหลีกเลี่ยงที่ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
  • ความยากลำบากด้านการสื่อสารในคู่รักหรือครอบครัว ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์และการตัดสินใจ

รายการนี้เป็นตัวอย่างเพื่อประกอบการพิจารณา การประเมินรายบุคคลยังคงเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเลือกแนวทางบำบัดที่เหมาะสม

กระบวนการรับบริการอย่างเป็นระบบ

การดูแลที่ดีเริ่มจากความชัดเจนและความปลอดภัย คุณวิมลวรรณให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน เพื่อให้การเดินทางของผู้รับบริการเป็นไปอย่างราบรื่นและวัดผลได้

  1. นัดหมายและคัดกรองเบื้องต้น
    ทีมงานสอบถามข้อมูลพื้นฐาน อาการ ระยะเวลา และเป้าหมาย เพื่อกำหนดเวลาพบที่เหมาะสม รวมถึงแนะนำเอกสารที่ควรเตรียม
  2. สัมภาษณ์และประเมินทางจิตวิทยา
    เก็บประวัติครอบคลุมทั้งชีวภาพ จิตใจ และสังคม อาจมีแบบประเมินมาตรฐาน และการพูดคุยกับผู้ปกครองหรือครูเพื่อเห็นภาพแวดล้อมอย่างรอบด้าน
  3. สรุปผลและวางแผนบำบัด
    ร่วมกันกำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้ เลือกแนวทาง เช่น IPT-A การบำบัดรายบุคคล รายครอบครัว หรือกลุ่มบำบัด พร้อมความถี่และช่วงเวลาทบทวนผล
  4. ดำเนินการบำบัดและติดตาม
    ฝึกทักษะระหว่างพบและงานบ้านที่นำไปใช้จริง มีการประเมินซ้ำตามระยะ เพื่อปรับเทคนิคให้เหมาะกับความก้าวหน้าของแต่ละคน

สิ่งที่ผู้รับบริการมักได้ฝึกและนำไปใช้จริง

ทักษะที่ได้จากการบำบัดมุ่งให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ลดความทุกข์ เสริมการสื่อสาร และเพิ่มความยืดหยุ่นทางใจ

  • แผนที่ความสัมพันธ์และการสื่อสารอย่างเคารพตนเองและผู้อื่น
  • การสังเกตความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ อารมณ์ และพฤติกรรม
  • การตั้งเป้าหมายย่อยที่ทำได้จริงและทบทวนผลอย่างสม่ำเสมอ
  • การใช้ภาษาที่ชัดเจนเพื่อลดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
  • เทคนิคการดูแลตนเอง เช่น การนอน การเคลื่อนไหวร่างกาย และเวลาพักคุณภาพ

ข้อดีของ IPT-A และการผสานจิตวิทยาเชิงบวก

การทำงานของคุณวิมลวรรณเน้นสร้างสมดุลระหว่างการแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญกับการปลูกฝังจุดแข็งในระยะยาว จึงเกิดผลดีในหลายมิติทั้งตัวบุคคลและระบบความสัมพันธ์

  • ช่วยให้วัยรุ่นพูดความต้องการได้ตรงขึ้น ลดการสื่อสารที่ขัดแย้ง
  • เพิ่มความเข้าใจในบทบาทของตนเองเมื่อเกิดการเปลี่ยนผ่าน เช่น การเตรียมสอบหรือย้ายระดับชั้น
  • ลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างบุคคล
  • เสริมทักษะการแก้ปัญหาร่วมกับครอบครัวและครู ทำให้ระบบสนับสนุนแข็งแรงขึ้น
  • จิตวิทยาเชิงบวกช่วยต่อยอดความหวัง ความหมาย และแรงใจในการดูแลตนเอง

การทำงานร่วมกับครอบครัว โรงเรียน และทีมสหวิชาชีพ

สำหรับวัยรุ่น การสนับสนุนจากผู้ปกครองและโรงเรียนมีผลอย่างยิ่ง คุณวิมลวรรณจึงวางแผนการสื่อสารร่วมกับผู้เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม โดยคงหลักการรักษาความลับและการขอความยินยอม เธอทำงานร่วมกับจิตแพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และครูแนะแนว เพื่อให้แผนบำบัดสอดคล้องกันและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จรรยาบรรณและความเป็นส่วนตัว

ผู้รับบริการจะได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานวิชาชีพ เอกสารและแบบประเมินถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย ทุกขั้นตอนมีการอธิบายอย่างโปร่งใสก่อนเริ่มดำเนินการ เพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจและสามารถร่วมตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

คำถามที่พบบ่อย

การบำบัดเหมาะกับใครบ้าง?

เหมาะกับผู้ที่มีความทุกข์ใจจากอารมณ์ พฤติกรรม หรือความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน วัยมหาวิทยาลัย หรือวัยทำงาน หากรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มกระทบการเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์ การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญคือจุดเริ่มต้นที่ดี

ต้องพบกี่ครั้งจึงเห็นการเปลี่ยนแปลง?

จำนวนครั้งขึ้นกับเป้าหมายและความซับซ้อนของประเด็น IPT-A มักกำหนดช่วงเวลาชัดเจนเป็นรายสัปดาห์และทบทวนผลตามระยะ ส่วนการเสริมทักษะเชิงบวกอาจต่อเนื่องตามความพร้อมของผู้รับบริการและครอบครัว

ผู้ปกครองควรมีบทบาทอย่างไร?

ผู้ปกครองเป็นส่วนสำคัญของระบบสนับสนุน คุณวิมลวรรณจะชวนมีส่วนร่วมในช่วงที่เหมาะสม เช่น การตั้งข้อตกลงการสื่อสารในบ้าน การติดตามแผนงานบ้าน และการประสานกับโรงเรียน ทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบความลับและความยินยอมของวัยรุ่น

แบบประเมินทางจิตวิทยาจำเป็นหรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอไป แต่มีประโยชน์ในกรณีที่ข้อมูลซับซ้อนหรือจำเป็นต้องวัดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ การเลือกใช้ขึ้นกับวัย เป้าหมาย และบริบทของแต่ละบุคคล

หากยังไม่พร้อมพูดเรื่องยากควรทำอย่างไร?

สามารถบอกขอบเขตและความกังวลได้เสมอ กระบวนการบำบัดจะค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากประเด็นที่ปลอดภัยเพื่อสร้างความไว้วางใจ และค่อยๆ ขยับสู่เรื่องที่ลึกขึ้นเมื่อพร้อม

บทบาทด้านการพัฒนาองค์ความรู้และการอบรม

ด้วยพื้นฐาน Training for the Trainer คุณวิมลวรรณถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรแนวหน้า ครู และผู้ปกครอง เพื่อให้เข้าใจสัญญาณเตือนเบื้องต้นของภาวะเสี่ยง แนวทางจัดการเหตุการณ์เฉียบพลัน และวิธีสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้ เธอยังสนับสนุนการจัดทำคู่มือสั้นๆ แบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ชุมชนสามารถนำหลักการสุขภาพจิตไปใช้ได้ในวงกว้าง

วิธีเตรียมตัวก่อนมาพบและการติดตามผล

การเตรียมตัวเล็กน้อยช่วยให้การพบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้รับบริการสามารถจดเหตุการณ์สำคัญ อารมณ์ที่เกิดขึ้น และปัจจัยที่ทำให้อาการดีขึ้นหรือแย่ลง หากมีเอกสารจากโรงเรียนหรือผลประเมินก่อนหน้าให้นำมาด้วย ระหว่างกระบวนการจะมีการนัดหมายติดตามตามระยะ เพื่อทบทวนเป้าหมายและปรับแผนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตจริง

จุดยืนวิชาชีพและภาพรวมการทำงาน

หัวใจของการทำงานของคุณวิมลวรรณคือการมองเห็นคุณค่าและศักยภาพที่มีอยู่ในตัวบุคคลทุกคน เธอเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและการสื่อสารที่ชัดเจนช่วยให้คนเราก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากได้ การบำบัดจึงไม่ใช่เพียงการลดอาการ แต่คือการเรียนรู้ทักษะชีวิต การมองตนเองด้วยความเมตตา และการสร้างระบบสนับสนุนที่แข็งแรงรอบตัว

สรุป

นางสาววิมลวรรณ ปัญญาว่อง คือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษที่โดดเด่นทั้งด้านจิตบำบัดเชิงความสัมพันธ์สำหรับวัยรุ่นแบบ IPT-A และจิตวิทยาเชิงบวก เธอมีประสบการณ์เข้มข้นจากสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ และสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา พร้อมบทบาทที่ขยายสู่การอบรมและพัฒนาบุคลากร กระบวนการทำงานของเธอยึดหลักความปลอดภัย ความร่วมมือ และการวัดผลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้รับบริการกลับมามีพลังใจและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจวัยรุ่น เคารพบริบทครอบครัว และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ใช้งานได้จริง คุณวิมลวรรณคือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าไว้วางใจสำหรับการดูแลใจอย่างมืออาชีพ

Related articles